ลักสัญญาณโทรศัพท์ใช้สายและโทรศัพท์มือถือ จะมีความผิดฐานลักทรัพย์ หรือไม่
ลักสัญญาณโทรศัพท์ใช้สายและโทรศัพท์มือถือ จะมีความผิดฐานลักทรัพย์ หรือไม่
การลักกระแสไฟฟ้า ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ในปี 2501 ว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ( ฎีกาที่ 877/2501 )
ต่อมาปี 2542 ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า การที่จำเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์สาธารณะไปใช้เพื่อประโยชน์ของจำเลย ก็เป็นความผิดฐานลักทรัพย์เช่นกัน เพราะสัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสไฟฟ้าที่แปลงมาจากเสียงพูดเคลื่อนที่ไปตามสายลวดตัวนำจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ฎีกาที่ 1880/2542 ( ประชุมใหญ่ ) สัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสไฟฟ้าที่แปลงมาจากเสียงพูดเคลื่อนที่ไปตามสายตัวนำจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จำเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพท์จากตู้สาธารณะซึ่งอยู่ในความครอบครองขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยไปใช้เพื่อประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์เช่นเดียวกับการลักกระแสไฟฟ้า
ส่วนการที่จำเลยปรับจูนและก๊อปปี้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และรับส่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเพียงการแย่งใช้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ฎีกาที่ 5354/2539 จำเลยนำโทรศัพท์มือถือมาปรับจูนและก๊อปปี้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของผู้เสียหายแล้วใช้รับส่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเพียงการแย่งใช้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของผู้เสียหายโดยไม่มีสิทธิ มิใช่เป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริต ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็ต้องพิพากษายกฟ้อง
จากคำพิพากษาฎีกาทั้งสอง มีความแตกต่างกัน เพราะกรณีโทรศัพท์มือถือ เป็นคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น ส่วนกรณีสัญญาณโทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นสัญญาณโทรศัพท์ที่อยู่ภายในสายโทรศัพท์
--------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก