ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- กะเหรี่ยง (79)
- จีนฮ่อ (1)
- ถิ่น (1)
- ไทดำ (1)
- ไทย (6)
- ไทยอง (1)
- ไทลื้อ (6)
- ไทหย่า (1)
- ไทใหญ่ (1)
- ปะหล่อง (ว้า) (2)
- ม้ง (แม้ว) (44)
- มูเซอ (ลาหู่) (46)
- เมี่ยน (เย้า) (50)
- มลาบรี (ผีตองเหลือง) (2)
- มอญ (Mon) (160)
- ลานแตน (1)
- ลาว (1)
- ลาวเทิง (2)
- ลีซู (47)
- ลัวะ (ละว้า) (3)
- สามต้าว (1)
- อาข่า (57)
- ชาติพันธุ์อื่นๆ (7)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
ชนเผ่าม้ง - แม่เฒ่าผู้สู้ชีวิต
แม่เฒ่าผู้สู้ชีวิต
จากข่าว...คนชราถูกทอดทิ้ง...ที่ไม่เคยจางหายไปจากหน้าหนังสื่อพิมพ์...ซึ่งนับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่เป็นปัญหา ของสังคม ที่รัฐบาลต่างเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากเรามองย้อนถึงต้นเหตุของผลเหล่านี้ อะไร..???ส่งผลให้่้สังคมไทยเริ่มเปลี่ยนแปลง...?? ซึ่งปัจจุบันนี้...คนชราเป็นวัยที่น่าเป็นห่วงที่สุดในสังคมที่มีแต่ความ แย่งแก่งกัน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะวัยชราเป็นวัยที่ใกล้ฝั่งเต็มทีแล้ว
...แต่จะมีสักกี่คนที่จะเข้าใจถึงสภาพจิตใจของคนชราเหล่านี้ แม้ว่าคนชราเหล่่า นี้จะแกไป แต่คนเหล่านี้ยังต้องการความรักความอบอุ่นจากลูกๆหลานๆของคนชราเหล่านี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนปัจจุบันชอบตัดสินใจ ให้กับคนชราว่า ...คนเหล่านี้หมดความต้องการแล้ว...จะอย่างไรก็ได้...นั่นคือวิธีคิดของคน รุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องสภาพจิตใจของคนชราสักเท่าไร
เลยส่งผลให้คนรุ่นใหม่ต้องละทิ้งคนชราเหล่านี้จนเต็มบ้านเต็มเมืองอย่างที่ เห็นเป็นอยู่ทุกวัน จะมีสักกี่คนที่ดูแลคนชราเหล่านี้ได้อย่าง พวกเค้าพอใจ
สายตาแฝงด้วยความเศร้าหม่อง มองไม่ค่อยเห็นอะไรเนื่องจากเป็นโรคต้อกระจกนัยต์ตา รอยหย่นแห่งบนใบหน้าที่แสดง ถึงความแก่ชราตัว บ่งบอกถึงความทุกข์ยากลำบากทางกายและจิตใจ รอเพียงการช่วยเหลือจากคนรอบข้างและคนใกล้ชิด เท่านั้น รอเศษอาหารจากคนรอบข้าง มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เพราะหญิงชราคนนี้ไม่สามารถที่จะไปรับจ้างเพื่อนำมาแลกเป็น ตัวเงินได้ เนื่องจากเมื่อหลายปีที่แล้วหญิงชราคนนี้ถูกรถชน และต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพราะต้นขาหัก แต่หลังจาก ผ่าตัดแล้วต้องใส่เหล็กเพื่อยึดขาไว้ เพื่อให้สะดวกแก่การเดินไปไหนมาไหน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีเงิน เพื่อที่จะไปผ่าตัดอีกครั้งเพื่อเอาเหล็กนั้นออก ทำให้หญิงชราคนนี้ต้องทนกับเหล็กที่อยู่ในขาตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปไหน มาไหนก็ไม่สะดวกต้องเดินกะโป้กะเป๋ หญิงชราคนนี้ก็เป็นอีกคนชราหนึ่งที่ไม่มีลูก-ไม่มีหลาน และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ คนชราที่ถูกละทิ้งจากสังคม
หญิงชราคนนี้มีชื่อว่า นางสาวเต้า แซ่ย่าง อาศัยอยู่บ้าน ที่ไม่มีบ้านเลขที่ เป็นบ้านกระท่อมเล็กๆ มุงด้วยหญ้าคา ผาฝนังล้อมด้วยไม้ไผ่ที่ ผุกร่อนแล้ว ซึ่งในตัวบ้านมีขนาดเล็กมาก พอที่จะอยู่คนเดียวและหุงหาอาหารกินได้ มีเก้าอี้นั่งเพียงหนึ่งตัวใช้เวลานั่งกินข้าว หากถึงหน้าฝนหลังคาที่มุงด้วยหญ้าคาจะรั่ว ทำให้นางเต้าต้องขอพลาสติกจากชาว บ้านใกล้เคียงมาอุดรูเพื่อกั้นเปียกฝน ส่วนนางเต้ามีความใฝ่ฝันว่าอยากจะได้บ้านที่มุงสังกะสี และข้าวสารเล็กน้อยเพื่อนำมา หุงหาอาหารกิน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้ยื่นเรื่องไปที่อบต.ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน แต่ทางอบต.ป่ากลางก็ ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือเลย ทำให้นางเต้า แซ่ย่างอยู่อย่างโหดหู่เฝ้ารอคอยแต่น้ำใจของเพื่อนบ้านเท่านั้น