วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
25/03/2009
ที่มา: 
เว็บไซต์ฅนไทยดอทคอม http://www.khonthai.com

เรือนไทยภาคกลาง

ภาคกลางเป็นศูนย์กลางการปกครองของบ้านเมืองมาตั้งแต่อดีต นับจากสมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยากรุงธนบุรีจวบจนรัตนโกสินทร์ในปัจจุบันมีหลักฐานปรากฏว่าเรือนไทยในสมัย สุโขทัย สมัยอยุธยาที่เหลือตกทอดมาจนปัจจุบัน ล้วนก่อสร้างด้วยไม้เรือนไทยในสมัยอยุธยาคล้ายคลึงกับเรือนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ เพียงแต่สันนิฐานว่าเรือนของคหบดีขุนนางสมัย อยุธยาจะมุงด้วยกระเบื้องลอนดินเผา

รูปทรงเรือนไทยภาคกลาง

เป็นเรือนยกพื้น ใต้ถุนสูง สูงจากพื้นดินเสมอศรีษะคนยืน รูปทรงล้มสอบ หลังคาทรงสูงชายคายื่นยาว เพื่อกันฝนสาด แดดส่อง นิยมวางเรือนไปตามสภาพแวดล้อมทิศทางลมตามความเหมาะสม   เช่น อยู่ริมน้ำ ลำคลอง ตัวเรือนก็วางยาวไปตามลำน้ำด้วยหรืออยู่ริมถนนก็วางตัวเรือนไปตามถนนตำแหน่งของผังเรือนขึ้น
อยู่กับคติความเชื่อเป็นหลัก

เรือนไทยในภาคกลาง  

ถือเป็นแบบฉบับของเรือนไทยเดิมที่เราคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบ เรือนฝาปะกนถือเป็นเรือนไทยแท้ เรือนไทยฝาปะกน คือเรือนที่ฝาทำจากไม้สัก   มีไม้ลูกตั้งและลูกนอน และมีแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท หน้าจั่วก็ทำด้วยวิธีเดียวกัน เราจะพบเห็นเรือนไทยภาคกลาง   รูปแบบต่าง ๆ อาทิ    เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนหมู่คหบดี และจากการดำเนินชีวิตของคนไทยในอดีตผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง   อันเป็นทางคมนาคมที่สะดวกในเขตภาคกลางจึงเกิดรูปแบบเรือนพักอาศัยเช่นเรือนแพ เรือนไทยในภาคกลางอาจจำแนกออกเป็น

  • เรือนเดี่ยว

เป็นเรือนสำหรับครอบครัวเดี่ยว สามีภรรยาและลูกที่ยังไม่ออกเรือน   สร้างขึ้นโดยมีประโยชน์ใช้สอยที่เพียงพอกับครอบครัวเล็ก ๆอาจเป็นเรือนเครื่องผูกเรือนเครื่องสับ หรือผสมผสานกันก็เป็นได้แล้วแต่ฐานะทางเศรษฐกิจ จะเอื้ออำนวย ประกอบด้วย เรือนนอน 1 หลัง เรือนครัว   1 หลัง ระเบียงยาว ตลอดเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องนอนกับชาน

 

  • เรือนหมู่           

เรือนหมู่ คือ เรือนหลายหลังซึ่งปลูกอยู่ในที่เดียวกันเมื่อลูกเต้าออกเหย้าออกเรือนไปแล้วเรือนเหล่านี้หลังหนึ่งเป็นเรือนเดิมซึ่งพ่อแม่อยู่ส่วนที่เหลือเป็นเรือนหลังย่อมกว่า เป็นที่อยู่ของบุตรสาวซึ่งออกเรือนไป
แล้วจำนวนหลัง แล้วแต่จำนวนบุตรสาว เนื่องจากสมัยก่อนลูกชายแต่งงานส่วนใหญ่จะไปอยู่บ้านผู้หญิง ส่วนลูกผู้หญิงจะนำเขยเข้าบ้าน

  • เรือนหมู่คหบดี

เรือนหมู่คหบดีโบราณ เป็นเรือนสำหรับผู้มีอันจะกินดังคำกล่าวว่า " ถ้าบ้านใด มีแม่เรือน 2 หลัง หอนั่ง ครัวไฟ  หัวกระไดต้นโมกเป็นบ้านเรือนชั้นผู้ดีมีอันจะกิน " ลักษณะการจัดเรือนหมู่คหบดีของ
โบราณเป็นเรือนขนาดใหญ่มีเรือนคู่และเรือนหลังเล็กหลังน้อยรวมเข้าด้วยกัน แต่ละหลังใช้ประโยชน์ต่างหน้าที่กันออกไป ประกอบด้วย เรือนนอน  เรือนลูก เรือนขวาง  เรือนครัว หอนก และชาน

 

  • เรือนแพ        

สายน้ำกับชีวิตแบบไทย ๆอยู่คู่กันมาโดยตลอด ส่วนใหญ่คนไทยจะอาศัยอยู่ริมน้ำเพราะเป็นเส้นทางการ คมนาคมที่สะดวกและเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชิวิตประจำวัน   และงานเกษตรกรรมในบางพื้นที่ที่
บริเวณชายน้ำเป็นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมถึงเป็นเวลานานในช่วงหน้าน้ำ การสร้างบ้านบริเวณชายฝั่งต้องยกพื้นชั้นบนสูงมาก    จึงจะพ้นน้ำซึ่งไม่สะดวกใน
หน้าแล้งทำให้เกิดการสร้างเรือนในลักษณะ " เรือนแพ "   ที่สามารถปรับระดับของตนเองขึ้นลงได้ตามระดับน้ำในแม่น้ำลำคลอง

อ้างอิงต้นฉบับ : http://www.khonthai.com/Vitithai/center.htm

ต้องการอ่านเนื้อหาทั้งหมด ไปหน้ารวม link เรือนไทยสี่ภาค คลิ๊กเลยจ้า!