วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
14/01/2008
ที่มา: 
มูลนิธิกระจกเงา โครงการพิพิธภัณฑ์ชาวเขาออนไลน์

นิทานอาข่า-อ่าเซิงเซิ้ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายหนุ่มรูปงามชื่อ อ่าเซิงเซิ้ง วันหนึ่งเขาออกไปหว่านแหที่หนองน้ำ ครั้งแรกไม่ติดปลามีแต่ก้อนหินติดมาก้อนหนึ่ง เขาก็เหวี่ยงแหลงไปใหม่อีก ครั้งนี้ก็ยังได้ก้อนหินก้อนเดิม จนครั้งที่สามที่เขาได้ก้อนหินก้อนเดิมเขาจึงเก็บไว้ในบาจูกาโละ(หีบ)แล้วนำกลับบ้าน

วันรุ่งขึ้น เขาออกไปทำไร่เหมือนเคย และตอนเย็นหลังจากเสร็จกิจจากไร่ เขาก็กลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านก็เห็นว่ามีคนทำความสะอาดบ้านให้เขาเรียบร้อยแล้ว เขาแปลกใจมากจึงฆ่าไก่แล้วเชิญคนในหมู่บ้านแล้ว มาถามว่าใครเป็นคนทำความสะอาดบ้านให้เขา ทุกคนบอกว่าไม่มีใครทำให้ อ่าเซิงเซิ้งจึงวางแผนจะจับตัวคนทำความสะอาดให้ได้โดยเขาแกล้งทำเป็นออกไปทำไร่เหมือนปรกติ แต่จริงๆแล้วเขาแอบดูอยู่ตรงมุมทางเดิน แล้วตอนเย็นเขาก็เห็นผู้หญิงสาวสวย คนหนึ่งใส่ชุดอาข่าเต็มยศกระโปรงสีขาวมาทำความสะอาดบ้านให้เขา เมื่อทำงานเสร็จหญิงสาวได้ไปนั่งหวีผมอยู่ข้างๆครกกระเดื่อง ด้วยความสงสัยเขาจึงเดินเข้าไปถามว่า

อ่าเซิงเซิ้ง : เธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมมาทำความสะอาดบ้านของฉัน
หญิงสาว : คุณนั่นแหละเป็นคนพาฉันมา วันที่ไปจับปลาไงล่ะ ฉันคือก้อนหินก้อนนั้นเอง
อ่าเซิงเซิ้ง : แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ
หญิงสาว : ฉันบอกคุณไม่ได้หรอก เพราะว่า ฉ้าคุณเอาชื่อของฉันไปบอกคนอื่นฉันก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้ อ่าเซิงเซิ้งพยายามถามชื่อเธอหลายครั้งและให้สัญญาว่าจะไม่บอกชื่อของเธอกับคนอื่น เธอจึงยอมบอกว่าเธอชื่อ “ อือลงยามี ลงซิลงย่ะ ชิยอเมอแนะ ชิจอลาเกอะ ” หลังจากนั้นพวกเขาอยู่กินกันจนมีลูกสาวหนึ่งคน

วันหนึ่งหญิงสาวไปตักน้ำ นานแล้วไม่กลับมา ลูกก็เลยร้องไห้หาแม่ อ่าเซิงเซิ้งจึงร้องเพลงปลอบลูกโดยกล่าวถึงชื่อของแม่ พอดีนางกลับมาได้ยินจึงต่อว่าสามีที่ไม่รักษาสัญญาว่าจะไม่บอกชื่อของตนกับคนอื่น พูดจบนางก็ได้ถอดกำไลวงหนึ่งให้เขาและบอกว่าถ้าเขาได้เจอผู้หญิงที่สามารถใส่กำไลวงนี้ได้ เธอคนนั้นคือเนื้อคู่ของอ่าเซิงเซิ้ง จากนั้นนางเดินไปถอนเสาหูกแล้วเทน้ำลงหลุมจนเต็มแล้วก็กระโดดลงไป อ่าเซิงเซิ้งพยายามเรียกสัตว์มาช่วยดูดน้ำออกจากหลุมแต่ก็ไม่สำเร็จ จนตัวสุดท้ายคือกบ มาดูดน้ำได้จนเห็นหมวกของภรรยาแล้วแต่มีแมลงวันบินมาเจาะก้นกบ กบเลยท้องแตก น้ำท่วมเหมือนเดิม

เมื่อไม่สามารถช่วยภรรยาได้เขาสองพ่อลูกก็ได้ออกตามหาภรรยาใหม่ ทั้งสองได้เจอหญิงสาวคนหนึ่งเป็นคนในตระกูล อาเมียะเยียหม่า(คนในสมัยโบราณ)เธอมีเหนียงอยู่ที่คอคล้ายวัว เมื่อลองสวมกำไลเธอก็ใส่ได้พอดีทั้งสองจึงแต่งงานกัน อยู่ด้วยกันมานานวันหนึ่งพ่อตาฝากคนมาบอกอ่าเซิงเซิ้งว่าให้ไปเที่ยวหาที่บ้านบ้าง เขาจึงเดินทางไปหาพ่อตา ขากลับพ่อตาฝากแหนมดองมาให้และกำชับว่าระหว่างทางห้ามเปิดดูเด็ดขาด และถ้าลูกของเขาไม่สบายก็ให้มาบอกเขา ระหว่างทางอ่าเซิงเซิ้งเกิดความสงสัยจึงเปิดห่อแหนมดู เมื่อเปิดดูเขาต้องตะลึงกับแหนมที่ถูกห่อไว้ เพราะว่าแหนมนั้นทำมาจากนิ้วมือคน แล้วเขาก็ห่อไว้เหมือนเดิม

พอกลับถึงบ้านเขาบอกภรรยาว่าพ่อตาฝากห่อแหนมมาให้ห้ามเปิดดูนะ แล้วเขาก็แกล้งออกไปบ้านเพื่อน แต่กลับแอบดูอยู่ใต้ถุนบ้าน เห็นภรรยากินแหนมอยู่ในครัว เมื่อเห็นดังนั้นเขาแกล้งลองใจภรรยาโดยไปถามถึงแหนม ภรรยากลับบอกว่าเธอเอาไปให้คนแก่ในหมู่บ้านหมดแล้ว อ่าเซิงเซิ้งคิดว่าภรรยาของตนเป็นปีศาจแน่นอน ก็เลยบอกให้ภรรยาเอาเหล็กมาเผาไฟเพื่อทำกล้องสูบบุหรี่อันใหม่ แล้วเขาก็แกล้งหลับ พอภรรยาเผาเหล็กเสร็จแล้วไปปลุก เขาก็ไม่ยอมตื่นจนภรรยารอไม่ไหวหลับไปเช่นกัน อ่าเซิงเซิ้งได้โอกาสจึงเอาเหล็กที่เผาจนแดงเสียบหูภรรยาจนตาย

อ่าเซิงเซิ้งส่งข่าวกลับไปบอกที่บ้านพ่อตาว่าลูกสาวของเขาตายแล้ว แม่ยายของอ่าเซิงเซิ้งเดินทางมารับศพกลับไปบ้านและรู้ว่านี่เป็นฝีมือของอ่าเซิงเซิ้งแน่นอน หลังจากนั้นอ่าเซิงเซิ้งก็อาศัยอยู่กับลูกสาวเพียงสองคนพ่อลูกที่บ้านเดิม เขามีลางสังหรณ์ว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆเมื่อมีคนบอกเขาว่าพ่อตาเขาอยากให้เขาไปเยี่ยมที่บ้าน วันเดินทางเขาเอาดอกกล้วยไม้ทัดหูไปด้วย ระหว่างทางเขาได้พบกับหญิงสาวที่กำลังเผาฟืนอยู่ เธอพยายามจะขอดอกไม้ของเขาแต่เขาก็ไม่ยอมให้ เดินมาเจอผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้ขอดอกไม้ของเขาเช่นกัน โดยมีข้อเสนอว่าถ้าอ่าเซิงเซิ้งยอมให้ดอกกล้วยไม้แก่เขา เธอจะบอกทุกเรื่องที่อ่าเซิงเซิ้งอยากรู้ เมื่อเป็นเช่นนี้อ่าเซิงเซิ้ง จึงยอมตกลง หญิงสาวบอกว่าพ่อตากำลังวางแผนจะฆ่าอ่าเซิงเซิ้ง เมื่อได้ยินดังนั้นอ่าเซิงเซิ้งจึงเก็บรังผึ้งไปด้วย พอมาถึงบ้านพ่อตาเขาแกล้งทำเป็นหนาวสั่น ครางร้องบอกว่าไม่สบาย ช่วยก่อไฟให้หน่อยหนาวมาก

ตอนกลางคืนอ่าเซิงเซิ้งเอาผึ้งไปใส่ในโอ่งแล้วเอาผ้าห่มคลุมไว้ จากนั้นเขาก็แอบอยู่ข้างๆกองฟืน ตอนใกล้รุ่ง ชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อนจะฆ่าอ่าเซิงเซิ้ง พวกเขานึกว่าอ่าเซิงเซิ้งนอนอยู่จึงทุบโอ่งแต่ไม่ใช่อ่าเซิงเซิ้ง อยู่ดีๆก็มีไก่ตัวหนึ่งขันบอกว่า อ่าเซิงเซิ้งแอบอยู่ตรงข้างกองฟืน เขาก็เปลี่ยนไปแอบข้างกองหญ้าคา ไก่ก็ขันบอกว่าอ่าเซิงเซิ้งซ่อนตรงกองหญ้าคา อ่าเซิงเซิ้ง จึงเปลี่ยนใจหนีเข้าป่า แล้วไปบ้านเอาลูกสาวไปด้วย พวกชาวบ้านกับพ่อตา นั้นตามล่าไม่ลดละ โดยตัวอ่าเซิงเซิ้งนั้นแบกลูกสาวไว้บนคอ ตอนนั้นลูกสาวเขาตะโกนบอกเขาว่าิ พ่อเลือดออก แล้วลูกของเขาก็เลียกินเลือดบนคอจนหมด เมื่อเห็นเช่นนี้อ่าเซิงเซิ้งก็คิดว่าลูกสาวของตนก็ต้องเป็นปีศาจเช่นกัน เขาจึงทิ้งลูกสาวไว้ในป่า ฝ่ายชาวบ้านและพ่อตาที่ติดตามตามมา จึงจับลูกของเขากินแล้วยิ่งมีกำลังวิ่งตามเขามากขึ้น

อ่าเซิงเซิ้งวิ่งมาถึงบ่อน้ำที่มีต้นไม้สูง เขาจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนต้นไม้นั้น สักครู่มีหญิงสาวคนหนึ่งมาตักน้ำแหงนคอขึ้นไป เห็นอ่าเซิงเซิ้งจึงร้องบอกคนอื่น อ่าเซิงเซิ้งจึงคิดอุบายหลอกชาวบ้านว่า ถ้าอยากจับตัวเขาให้เอาข้าวเหนียวปั้นกับเนื้อแล้วปาขึ้นมา ให้เขา พวกนั้นก็ทำตามทำให้เขามีกำลังที่จะวิ่งหนีมากขึ้น พอพวกปีศาจทั้งหลายฟันต้นไม้ เขาก็หลอกให้หากิ่งไม้มาค้ำยันไว้ เมื่อต้นไม้ล้มกำลังจะถึงพื้น อ่าเซิงเซิ้งเลยกระโดดหนีไปอยู่บนต้นกล้วย ปีศาจก็คิดว่าต้นกล้วยมีลำต้นใหญ่คงจะเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงมาก จึงออกแรงฟันแรงมากปรากฎว่ามีดพลาดไปโดนหัวเข่าของชายคนหนึ่ง อ่าเซิงเซิ้งจึงได้โอกาสหนีรอดไปได้