วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
14/01/2008
ที่มา: 
มูลนิธิกระจกเงา โครงการพิพิธภัณฑ์ชาวเขาออนไลน์

นิทานลาหู่-พี่ชายน้องสาว

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่ชายน้องสาวอยู่คู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน วันหนึ่งน้องสาวออกไปล่าสัตว์ แล้วได้กวางมาตัว หนึ่ง เลยคิดจะแบ่งให้คนทั้งหมู่บ้าน นางได้แบ่งส่วนสันคอให้จะลี้ซึ่งเป็นช่างตีเหล็กของหมู่บ้าน ส่วนหน้าอกให้ โตโบผู้นำศาสนา เนื้อสันให้แก่คะแซป่าผู้นำหมู่บ้าน ส่วน ขาทั้งสองข้างให้แก่ผู้ช่วยผู้นำหมู่บ้าน และนางได้แบ่งซี่โครง 7 ซี่ให้แก่คนในหมู่บ้าน (หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดเป็นประเพณีที่เมื่อใด ใครก็ตามที่ได้เนื้อมาจะต้องปฏิบัติตาม หญิงสาวคนนี้) วันต่อมา พี่ชาย ได้เม่นมาหนึ่งตัวแต่ถูกสุนัขที่เขาเอามาด้วยกินไปครึ่งตัว ทำให้เขาเหลือเม่นเพียงครึ่ง ตัวกลับบ้าน ก่อนกลับเขาก็ได้เก็บขนเม่น มาอีกด้วยเพราะคิดว่ามันสวยดี เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน น้องสาวก็มาหาเขาที่บ้านพอดี แล้วน้องสาวก็หันไปเห็นขนเม่น เลยไป ถามพี่ชายว่าทำไมได้เม่นมาแล้วจึงไม่แบ่งตนบ้าง ขนเม่นใหญ่ขนาดนี้แล้วตัวมันจะใหญ่ขนาดไหน ดูอย่างกวางที่นางได้มา มีขนเส้นเล็กแต่ตัวก็ใหญ่แล้ว เหตุใดพี่ชายจึงไม่แบ่งเม่นให้ตนและคนในหมู่บ้าน พี่ชายก็ได้อธิบายว่าเม่นมันตัวเล็กนิดเดียว แต่ขนมันใหญ่เท่านั้นเอง แต่น้องสาวก็ไม่เชื่อเลยทำให้ทั้งสองผิดใจกัน น้องสาวบอกว่าตนคงอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับพี่ชาย ไม่ได้แล้ว พี่ชายก็บอกน้องสาวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กนิดเดียวเอง แต่น้องสาวก็ไม่ฟัง รุ่งเช้านางก็ได้เก็บเสื้อผ้าแล้วลงไปทางใต้ ก่อนไปนางบอกว่านางจะไปอยู่ที่ “ ซึแพะว่าแพะ ” ซึ่งเป็นดินแดนที่มีต้นไม้สองต้น ต้นหนึ่งหันไปทางทิศตะวันตก อีกต้นหนึ่ง หันไปทางทิศตะวันออก เมื่อนางออกเดินทางไปได้จนเกือบถึงซึแพะว่าแพะ นางก็ไปพบถ้ำแห่งหนึ่งกลางทาง แล้วนางก็เจอหิน โดนไฟไหม้ใกล้กับกอไผ่ แล้วนางก็บังเอิญเหลือบไปเห็นเม่นโดนไฟไหม้เหลืออยู่ครึ่งตัว นางเลยร้องไห้และรู้สึกสำนึกผิดที่โกรธ พี่ชาย แต่เมื่อนางได้ลั่นวาจาว่าจะไม่กลับไปยังหมู่บ้านเดิมแล้ว นางคิดว่าจะต้องไม่กลับคำ ดังนั้นนางจึงออกเดินทางไปจนถึง เมืองซึแพะว่าแพะ และแล้วด้วยความเป็นห่วง พี่ชายเลยออกเดินทางเพื่อมาตามน้องสาว แล้วเขาก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง เขาเลย เดินลงมาแล้วก็พบกับต้นโพธิ์ที่แปลกมากเพราะว่ามันออกลูกหลายชนิดในต้นเดียวกัน ดังนั้นจึงมีสัตว์ต่าง ๆ มากินลูกไม้ ตอนแรกนั้นเขากะว่าจะพักเพื่อเดินทางต่อแต่แล้วเมื่อเห็นสัตว์เยอะแยะอย่างนี้เขาจึงอดใจที่จะยิงไมได้ เลยคิดจะยิงนกเพียง ครู่เดียวแล้วก็จะออกเดินทางไป แต่แล้วเขาก็เพลิดเพลินกับการยิงนกจนเวลาผ่านไป 3 ปี โดยที่เขาไม่รู้ตัว เมื่อเขามารู้สึกตัว อีกทีเขาก็ไม่สามารถที่จะเดินทางต่อได้แล้วเพราะว่าต้นไม้และสิ่งรอบๆตัวได้เปลี่ยนไปหมดจนเขาจำทางที่จะไปตามน้องสาวไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องเดินทางกลับบ้านและไม่สามารถไปตามน้องสาวได้ต่อ