ชนเผ่ากะเหรี่ยง-หมู่บ้านคลิตี้ล่าง

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
04/04/2008
ที่มา: 
http://www.karencenter.com/

ที่ตั้งและประชากร

เขตลุ่มน้ำแม่กลอง ตอนบน
จำนวนพื้นที่ :  60,650ไร่
ประเภทป่าตามกฎหมาย :  เขตป่าสงวนแห่งชาติ
พิกัด :  494566N 1644368E
ความสูงจากระดับน้ำทะเล :  638 เมตร
สภาพพื้นที่ :  ภูเขาหินปูน ป่าดิบแล้งสลับเบญจพรรณ
อุณหภูมิเฉลี่ย :  22.9 องศาเซลเซียส
ปริมาณน้ำฝน :  151.4 มิลลิเมตรต่อปี
ความชื้นเฉลี่ย :  99.1 เปอร์เซ็นต์
จำนวนน้ำระเหย :  70.4 มิลลิเมตร
จำนวนครัวเรือน :  46 หลังคาเรือน ประชากร 228 คน แบ่งเป็น
หมู่ 3 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ 18 หลังคาเรือน
หมู่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ 28 หลังคาเรือน
ผู้นำหมู่บ้าน :  1. นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ผู้ช่วยฝ่ายปราบปรามหมู่ 3 ต.นาสวน
2. นายกิตติ นาสวนกิตติ ผู้ช่วยผ่ายปกครองหมู่ 3 ต.นาสวน
คณะกรรมการหมู่บ้าน :  1. นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ประธาน
2. นายกิตติ นาสวนกิตติ รองประธาน
3. นายไป่โจ่ โต้งฟ้า กรรมการ
4. นายเนโท นาสวนนิวัติ กรรมการ
5. นายอาโพ่ นาสวนสถิต กรรมการ
6. นายสมชาย ทองผาภูมิปฐวี กรรมการ
7. นายปี้ละช่วย นาสวนประภา กรรมการ
8. นายไต่เลี่ยวซ่า นาสวนกนก กรรมการ
9. นายกำธร ศรีสุวรรณมาลา กรรมการ

ประวัติหมู่บ้าน

คลิตี้เป็นคำไทยที่เพี้ยนมาจากภาษากระเหรี่ยงว่าคี่ถี่ แปลว่าเสือโทน (เสือเมื่อโตเป็นหนุ่มจะแยกไปอยู่ลำพังตัวเดียว เรียกว่าเสือโทน) ภาษาไทยจึงเรียกว่าทุ่งเสือโทน ในสมัยก่อนบริเวณทุ่งแห่งนี้มีเสืออาศัยอยู่จำนวนมาก แต่มีเสือโทนตัวหนึ่งใหญ่ที่สุดพบเห็นรอยเท้าขนาดเท่าช้าง อาณาบริเวณการหากินครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ทุ่งใหญ่นเรศวร ลำคลองงู แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อย
ในอดีตตั้งหมู่บ้านย้ายไปมาในบริเวณแถบนี้มาหลายร้อยปี จนในที่สุดตั้งอยู่ที่ก้องหล้าและพุโพ่ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 7 กิโลเมตร ด้วยความเชื่ออยู่แล้วไม่มีความสุข จึงย้ายไปอยู่รวมกับบ้านคลิตี้บน ซึ่งที่ตั้งเดิมอยู่ตรงข้ามหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 8 (กจ.8) เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่ได้พักหนึ่งจึงได้ย้ายกลับมาตั้งหมู่บ้านที่คลิตี้ล่างอีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2440 โดยบรรพบุรุษ 4 ครอบครัวแรกเริ่มที่ยังสามารถให้ข้อมูลความเป็นมาของชุมชน ได้แก่ ครอบครัวลุงโอเมี๊ยะ ลุงกู้ ลุงมิอี และลุงขวย ปัจจุบันชุมชนอายุ 105 ปี ลักษณะบ้านเรือนสมัยก่อน จะเป็นบ้านที่ปลูกขึ้นด้วยไม้ไผ่ส่วนใหญ่ หลังคาใช้ใบหวายหรือหญ้าคาในการมุง เตาไฟจะอยู่บริเวณกลางบ้านเพื่อประกอบอาหารและให้ความอบอุ่นแก่สมาชิกในครอบครัว

ประวัติวัดคลิตี้ล่าง
วัดคลิตี้ล่างสร้างตั้งแต่เริ่มมีหมู่บ้านปี พ.ศ.2440 โดยพระรูปแรกชื่อ เกียะโบ้วมาโร ต่อมามีพระรูปใหม่ชื่อ พู้ว์เกียะบือ (ย่องกิ่ว) ซึ่งบวชที่บ้านนาสวนในโบสถ์น้ำแล้วได้มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ หลวงพ่อเกียะโบ้วมาโรจึงได้ไปจำพรรษาที่วัดคลิตี้บนซึ่งบ้านเกิด และมอบให้พระพู้ว์เกียะบือดูแลวัด จนมรณภาพตอนอายุ 76 ปี หลังจากนั้นก็มีพระสงฆ์ผลัดเปลี่ยนกันมาโดยตลอด

วิถีชีวิตชุมชน
คนในชุมชนบ้านคลิตี้ล่างการดำรงชีวิตเป็นแบบพอเพียง การหาของป่า การทำไร่ข้าวจะทำเพื่อกินเท่านั้น การทำการเกษตรเป็นแบบหมุนเวียน พืชหลักในไร่ได้แก่ ข้าว ถึงฤดูทำไร่ข้าวทุกครัวเรือนจะหยอดเมล็ดข้าวพร้อมเมล็ดผัก อันได้แก่ พริก แตงไทย แตงเปรี้ยว ผักกาดขาว ผักกาดเขียว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผักชีหอม ผักชีลาว ผักขี้โอ้ง และข้าวโพดฯลฯ ซึ่งเป็นผลผลิตทีไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น ผักจะขึ้นพร้อมกับข้าว ผลผลิตจะออกตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ผักที่กินไม่หมดจะดองใส่ไหไว้กินในหน้าแล้ง หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ชาวบ้านจะเก็บพริกโดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิงจาก : http://www.karencenter.com/