ผ้ามัดหมี่ - กระบวนการผลิตผ้ามัดหมี่ (2)

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
18/08/2008
ที่มา: 
พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร http://www.thaitextilemuseum.com

ผ้ามัดหมี่ - กระบวนการผลิตผ้ามัดหมี่ (2)

 

ไจไหม

นำเส้นไหมที่สาวแล้วมาทำเป็นไจหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“เปีย”

เส้นไหมที่ได้มานี้จะเป็นสีเหลืองเรียกว่าไหมดิบและมีเส้นแข็ง

 

ฟอกไหม

ต้องนำไหมไปฟอกให้นิ่มและเป็นสีขาว วิธีฟอกนั้นชาวบ้านไม่ได้ใช้สารเคมีอะไร แต่จะใช้ของที่อยู่ใกล้ตัวเช่น กาบกล้วย ใบกล้วย งวงตาล ฝักหรือเปลือกเพกา ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่งนำมาผ่านให้บางตากแดดให้แห้งและสุมไฟเผาจนมอดเป็นขี้เถ้าไปแช่น้ำทิ้งไว้ให้นอนก้นรินน้ำออกมาเป็นน้ำด่าง

นำไหมที่จะฟอกลงไปแช่ในน้ำด่างโดยทุบเส้นไหมให้อ่อนตัวเพื่อน้ำด่างจะได้ซึมเข้าได้ง่าย แช่จนไหมนิ่มและขาวจึงนำไปตากแดดให้แห้ง หากไหมยังไม่สะอาดก็นำไปแช่ด่างตามวิธีเดิมอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจะต้องระวังดึงไหมออกจากกลุ่มโดยไม่ให้พันกันยุ่ง และนำมาย้อมสีแรกก่อน จึงนำไปพันหลักหมี่เพื่อเตรียมมัดต่อไป

 

มัด

นำเส้นไหมที่ฟอกขาวและนุ่มดีแล้วนั้น มาพันหลักหมี่ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้กลม 2 ท่อนตั้งตรงข้าม ห่างกันเท่ากับหน้าผ้าของผ้านุ่งที่จะทอ พันไหมไปรอบหลักตามจำนวนรอบที่ต้องการ แล้วจึงนำเชือกมามัดเส้นไหมเป็นตอนๆตามลวดลายที่จะประดิษฐ์จะใช้เชือกกล้วยหรือเชือกฟางมัดก็ได้ ทั้งนี้เพื่อกันไม่ให้น้ำสีเข้าซึมในเส้นไหมเวลาย้อม ตอนนี้เองที่เรียกว่า “มัดหมี่” โดยผู้มัดใช้จินตนาการหรือความจำโดยไม่ต้องมีการร่างแบบ

ย้อม

นำเส้นไหมที่มัดแล้วนี้ไปย้อมสี สีจะติดเฉพาะตรงที่ไม่ได้มัด เมื่อย้อมแล้วอาจจะต้องนำมามัดและย้อมอีกซ้ำมาหลายครั้งแล้วแต่ความยากง่ายของลวดลายและจำนวนสีที่ปรากฏอยู่บนผืนผ้า

กรอ

เสร็จเรื่องย้อมแล้วตัดเชือกที่มัดออก นำเส้นไหมมากรอใส่หลอดโดยต้องระมัดระวังเรียงลำดับให้ถูกต้อง มิฉะนั้นผืนผ้าที่ทอออกมาจะมีตำหนิในลักษณะต่างๆกันเช่น ลายเขย่งสูงบ้างต่ำบ้าง มีรอยต่อลายเห็นชัดบ้างหรือบางทีกลายเป็นลายอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจเลยก็มี

เส้นไหมยืน

ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นเส้นไหมพุ่งสำหรับเส้นไหมยืนซึ่งจะเป็นความยาวของผืนผ้านั้น เมื่อฟอกไหมแล้วนำไปย้อมได้เลยแล้วแต่จะต้องการสีอะไร แล้วนำมากรอเข้าหลอด หวีและเข้าฟืม นำขึ้นกี่กอผ้าหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หูก”

ทอ


เมื่อมัดย้อมและกรอเส้นพุ่งใส่หลอดและเข้ากระสวยเรียบร้อยรวมทั้งมีเส้นยืนบนกี่หรือหูกแล้วให้ใช้มือในการพุ่งกระสวยโดยตรง ไม่ใช้วิธีกระตุกเชือกให้กระสวยพุ่งไปอย่างกี่กระตุก การทอผ้าไหมมัดหมี่นั้นต้องใช้ความละเอียดลออและพิถีพิถันมาก เมื่อกระสวยพุ่งไปครั้งหนึ่ง ก็ต้องตรวจดูว่าตรงกับดอกลายที่มัดไว้หรือไม่ ถ้าไม่ตรงก็ต้องจัดให้ตรงเสียก่อนแล้วจึงทอต่อไปได้

ต้นฉบับ : http://www.thaitextilemuseum.com/Thai/A_4/matmi1/matmi2/matmi2.html
ขอบคุณ ภาพและเนื้อหาจาก หนังสือผ้าทอพื้นเมืองและศิลปบนผ้าไหมมัดหมี่