ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- กะเหรี่ยง (79)
- จีนฮ่อ (1)
- ถิ่น (1)
- ไทดำ (1)
- ไทย (6)
- ไทยอง (1)
- ไทลื้อ (6)
- ไทหย่า (1)
- ไทใหญ่ (1)
- ปะหล่อง (ว้า) (2)
- ม้ง (แม้ว) (44)
- มูเซอ (ลาหู่) (46)
- เมี่ยน (เย้า) (50)
- มลาบรี (ผีตองเหลือง) (2)
- มอญ (Mon) (160)
- ลานแตน (1)
- ลาว (1)
- ลาวเทิง (2)
- ลีซู (47)
- ลัวะ (ละว้า) (3)
- สามต้าว (1)
- อาข่า (57)
- ชาติพันธุ์อื่นๆ (7)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
ชาติพันธุ์ล้านนา - กุ่ย
กุ่ย
กุ่ย เป็นชื่อเฉพาะของชนเผ่าลาวสูงกลุ่มหนึ่งที่พูดภาษาตระกูลทิเบต-พม่า ซึ่งมีคำศัพท์และสำเนียงภาษาพูดคล้ายกับภาษามูเซอและอีก้อ เผ่ากุ่ยมีวิถีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ล้าหลังกว่าชนเผ่าอื่น ๆ อาศัยอยู่ในเขตภูดอยที่ห่างไกลทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวในเขตเชียงแขง ต่อมาได้หนีภัยสงครามอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตเมืองสะโบกบ่อ สบโหลย ในราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เผ่ากุ่ยมีหลายตระกูล เช่น พอส้าง พอหน่อ พอจะใหม่ พอหวัง พอนังหล้า พอหล้าแลว เป็นต้น
การตั้งบ้านเรือน
ชนเผ่ากุ่ยจะเลือกตั้งบ้าน เรือนอยู่ตามไหล่เขาสูงที่มีน้ำห้วยไหลผ่าน ไม่นิยมอาศัยอยู่ในเขตที่ราบ ลักษณะของบ้านเป็นเรือนแบบชั่วคราว ใช้วัสดุจากธรรมชาติ ยกพื้นสูงจากพื้นดินราว 1.0 – 1.5 เมตร เสาเรือนมีขนาดเล็กทำด้วยไม้จริง มีห้องนอน 3 -4 ห้อง แยกห้องนอนชาย – หญิง สามี – ภรรยา จะนอนแยกกันคนละห้อง แต่จะมีประตูเปิดเชื่อมติดต่อกันได้หลังคาบ้านมุงด้วยใบหวาย ใบก้อหรือนำไม้เฮียะ (ไม้ไผ่ชนิดหนึ่ง) มาสับเป็นฟากมุงหลังคา ฝาและพื้นบ้านทำด้วยฟาก ตัวเรือนมีประตูเข้า 1 ประตู ครัวไฟอยู่ในเรือนจะเก็บสิ่งของเครื่องใข้ไว้ในเรือน เบื้องหัวนอนมีหิ้งผีเรือน ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปเตะต้อง ถ้าฝ่าฝืนจะถือว่าผิดจารีตอย่างหนักจะต้องถูกปรับไหมและฆ่าหมูเซ่นเลี้ยงขอ ขมาผีเรือน
ประเพณีที่สำคัญในรอบปี
เทศกาลสำคัญมี 4 ประเพณี ได้แก่
1. กินวอหลวง เรียกว่า “ คอสะโลง ” เป็นเทศกาลฉลองปีใหม่ของเผ่ากุ่ย จัดขึ้นปีละครั้งหลังฤดูเก็บเกี่ยว ราวเดือนธันวาคมของทุกปี ในเทศกาลคอสะโลจะทีการเซ่นบูชาผีเรือนเป็นพิเศษ ทุกหลังคาเรือนจะฆ่าหมู ฆ่าไก่ และต้มเหล้าเซ่นถวายผีเรือนแลเตรียมไว้เลี้ยงแขก ชาวบ้านจะหยุดงานทั้งหมู่บ้ายเพื่อเฉลิมฉลองเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน หนุ่มสาวจะลงข่วงมีการละเล่นต่าง ๆ อย่งสนุกสนาน ในขณะเดียวกันก็ถือโอกาสเลีอกคู่ครองไปด้วย
2. กินวอข้าวโพด เรียกว่า “ คอบาแจะ ” เป็นการตำผลผลิตข้าวโพดมาต้มเซ่นบูชาผีเรือน จัดขึ้นราวเดือนมิถุนายน ประกอบพิธีกรรม 1 วัน
3. บุญกินเผือกกินมัน เรียกว่า “ คอพาสาด ” จัดขึ้นในราวเดือนกันยายน แต่ละบ้านนึ่งเผือกมันและนำเทียน 1 คู่ ไปรวมกันที่บริเวณที่จัดเลี้ยงผีบ้านซึ่งอยู่ทางหัวบ้าน จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีจุดเทียนกล่าวคำบูชาเผือกมันถวายแก่ผีฟ้าเพื่อขอความ คุ้มครองให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี ให้เผือกมันเจริญงอกงามดีในปีต่อ ๆ ไป จากนั้นก็ร่วมกันกินเผอกกินมันเป็นเสร็จพิธี งานบุญกินเผือกกินมัน หรือคอพาสาด เป็นพิธีกรรมที่เก่าแก่ซึ่งปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษในยุคที่กิน เผือกกินมัน แม้ว่าในปัจจุบันจะรู้จักการปลูกข้าวแบบยังชีพและเลี้ยงสัตว์ ก็ยังขุดเผือกมันไว้กินในยามที่ขาดแคลนข้าวบริโภค ชนเผ่ากุ่ยมัหลักในการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย โดยมีคติว่า “ ป่าใดถ้าหมูป่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่ตาย ชนเผ่ากุ่ยก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ไม่ตายเช่นเดียวกัน “ ทั้งนี้เพราะการดำรงชีวิตของเผ่ากุ่ยผูกพันอยูกับป่า ต้องแสวงหาเผือกมันและอาหารจากธรรมชาติ
4. บุญกินข้าวใหม่ เรียกว่า “ ติชิ “ ประกอบพิธีกรรมในเดือนตุลาคม หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวไร่ โดยแต่ละหลังคาเรือนจัดเตรียมนึ่งข้าวใหม่ เนื้อหมู ไก่ 1 ตัว เหล้า 1 ขวด นำไปรวมกันที่บริเวณข่วงของบ้าน จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวคำบูชาผีฟ้า ผีบ้าน ผีเรือนให้มาชุมนุมร่วมกันรับเครื่องเซ่นถวาย เสร็จชาวบ้านจะรับประทานอาหารร่วมกัน มีการเต้นรำขับลำนำโต้ตอบกันอย่างสนุกสนานถึง 3 วัน 3 คืน