ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นิทานล้านนา เรื่อง กบกินเดือน
นิทานล้านนา เรื่อง กบกินเดือน
ในสมัยก่อนพระเจ้าเหา มีครอบครัวหนึ่ง ได้ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมือง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน ๔ คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาวสองคน ในสมัยนั้นถ้าครอบครัวหไหนมีลูกสาวก็จะกได้รับการอบรมเรื่องภายในบ้านเกี่ยว กับการเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น การจัดการบ้านการเรือน ความประพฤติ กิริยามารยาท ตลอดจนการทำอาหาร และในครอบครัวนี้ก็ได้อบรมในเรื่อง ต่าง ๆ ตามธรรมเนียมประเพณีต่อมาไม่นานทั้งสองคนก็สามารถที่จะทำได้อย่างชำนาญ
วันหนึ่งพ่อแม่บอกให้ลูกสาวทั้งสองคนไปทำอาหารเพื่อจะได้ทดสอบดูฝีมือ ทั้งสองคนก็เข้าไปในครัวแล้วช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ แต่ในตอนท้ายทั้ง ๒ คน ก็ทดลองชิมดูรสอาหารที่ได้ทำมาแต่ด้วยรสอาหารไม่ถูกปากซึ่งกันและกัน ทั้งสองจึงโต้เถียงกันจนอดกลั้นไม่ไหว คนพี่จึงเอาทัพพี ( ป้าก ) ฟาดหน้าน้องสาว ส่วนน้องสาวก็เอาสาก ( ไม้ตีพริก ) ฟาดหน้าพี่สาวตัวเอง ต่อสู้กันจนตายคาที่
เมื่อทั้งสองตายไปแล้ว ยมบาลได้นำเอาวิญญาณของทั้งสองไปพิพากษาและตัดสินว่า ‘' ทั้งสองนี้ทำการอันน่าบัดสีมาก สมควรจะได้ตกนรกทั้ง ๗ ชั้น ‘' เมื่อตกนรกไปแล้วก็ให้คนพี่ไปเกิดเป็นเดือน ส่วนคนน้องไปเกิดเป็นกบ
เมื่อทั้งสองไปเกิดเป็นเดือนและกบ ก็ยังอาฆาตกันอยู่อีก เมื่อตอนกลางคืนได้มีโอกาสพบกันเข้าอีก ความอาฆาตแค้นก็เกิดขึ้น คนน้องจึงได้อ้าปากคาบเดือนคนพี่ไว้ดังที่เราได้เห็นอยู่นั้น
ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
นิทานเรื่องนี้ทำให้เราทราบถึงในสมัยก่อน ๆ มีขนบธรรมเนียมเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่ควรเอาอย่างเพราะความอาฆาตแค้น และมีความเชื่อว่าตายแล้วขึ้นสวรรค์ได้ตกนรกได้ เป็นการสอนให้คนทำความดีไม่กล้าทำความชั่ว