ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นอย่างไร
ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นอย่างไร
มีหัวข้อดังนี้
เป้าหมายที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา
เรื่องความเชื่อ
เปรียบเทียบศาสนา (จุดหมายสูงสุดและวิธีการเข้าถึง)
ทำไมศาสนาทั้งหลายสอนไม่เหมือนกัน
คำสอนของศาสดาทั้งหมด กล่าวถูกต้องหรือไม่
วิเคราะห์ศาสนาอื่นด้วยหลักของพุทธศาสนา
วัฏจักร และ จุดจบของโลก ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา
โลกล้าง กับโลกแตก แตกต่างกัน
ทำไมพระพุทธเจ้าไม่สอนเรื่อง “พระเจ้า” และ “พระผู้สร้าง” ?
พระพุทธเจ้าไม่ตอบเรื่อง “สร้างโลก” เพราะไม่มีความรู้..??
-------------ตัวอย่างเนื้อหาสาระ------------
เป้าหมายที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา
คำสอนของพุทธศาสนาต่างจากศาสนาอื่น คือ คำสอนของศาสนาอื่นนั้นเป็นคำสั่งสำเร็จรูปที่ ศาสนิกจะต้องทำตาม
ให้เทพเจ้าพึงพอใจสถานเดียว ใครไม่ทำตามจะถูกลงโทษจากเทพเจ้าเบื้องบนโดยการให้ตกนรกไปตลอดกาล[1]
แต่คำสอนของพุทธศาสนาเป็นเพียงการนำกฏความจริงของธรรมชาติมาบอกเท่านั้น พระพุทธเจ้าไม่ใช่ผู้สร้างกฏ
หรือผู้บังคับผู้คนให้ต้องทำตามกฏ
เรื่องความเชื่อ
เรื่องความเชื่อ พระโพธิญาณ(ชา สุภทฺโท) เคยให้ทัสนะไว้ ดังนี้
ครั้งหนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งมาถามปัญหาท่านอาจารย์ชา (หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี) เรื่องชาติหน้าภพหน้า เขาสงสัยว่า คนตายแล้วเกิดหรือไม่?
ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ชาติหน้ามีจริงไหม?
ท่านอาจารย์ชา : ถ้าบอกจะเชื่อไหมล่ะ?
ผู้ถาม : เชื่อ
ท่านอาจารย์ชา : ถ้าเชื่อ......คุณก็โง่
ผู้ถาม : คนตายแล้วเกิดไหม?
ท่านอาจารย์ชา : จะเชื่อไหมล่ะ? ถ้าเชื่อ......คุณโง่หรือฉลาด? [20]
เปรียบเทียบศาสนา
จุดหมายสูงสุด
๑. อิสลาม - สวรรค์ คือ ดินแดนที่จะได้รับความสุขตามที่พระฮัลลาห์จะ ประทานให้ เช่นจะได้หญิงสาวสวยตาโตเป็นภริยา[7] เป็นต้น
๒. คริสต์ - สวรรค์ คือ ดินแดนที่มีแต่ความสุขตามแต่พระยะโฮวาห์จะมอบให้
๓. พราหมน์ - พรหมัน คือสภาวะดั้งเดิมของสรรพสิ่งมีความบริสุทธิ์สูงสุด
๔. พุทธ - นิพพาน คือ สภาวะที่บริสุทธิ์สูงสุด ไม่มีการเกิด จึงไม่มีการแก่ /ตาย
วิธีการเข้าถึง
๑. อิสลาม ต้องมีศรัทธาไม่หวั่นไหวทำความดีตามพระประสงค์ของพระอัลลอร์ ต้องสรรเสริญพระองค์บ่อย ๆ
๒. คริสต์ ต้องมีศรัทธามั่นคงห้ามสงสัย ทำความดีตามพระประสงค์ของพระเจ้า เน้นรักผู้อื่น ต้องอ้อนวอนและสรรเสริญพระองค์บ่อย ๆ[8]
๓. พราหมณ์ ทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด ปฏิบัติภาวนาถึงขั้นอรูปฌาน
๔. พุทธ ไม่จำเป็นต้องมีศรัทธา จึงไม่มีการอ้อนวอนร้องขอ[9] แต่ท้าให้มาพิสูจน์ความจริงด้วยตนเอง
โดยการปฏิบัติจิตภาวนาอย่างเคร่งครัด จากนั้นส่งจิตพิจารณาองค์ฌาน จนเกิดเป็นสภาวะญาณ เกิดวิปัสสนาญาณ ๑๖ ขั้น
เข้าถึง “พระนิพพาน”อย่างสมบูรณ์
ก่อนอื่นขอให้เข้าใจก่อนว่า หลักคำสอนของทุกศาสนาเป็นสัจจะ ความจริงด้วยกันทั้งสิ้น ผู้ที่เชื่อพระฮัลลาห์ทำตามคำ
สั่งสอนของพระองค์จะได้ขึ้นสวรรค์จริง ผู้ที่เชื่อพระยะโฮวาห์ทำตามคำสั่งสอนของพระองค์จะได้ไปอยู่ในแดนสวรรค์จริง
ผู้ที่เชื่อพรหมันทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด เจริญภาวนาถึงขั้นอรูป ฌานจะเข้าถึงพรหมันจริง
ทำไมศาสนาทั้งหลายสอนไม่เหมือนกัน
ถาม : ทำไมศาสนาทั้งหลายสอนไม่เหมือนกัน มีความเชื่อไม่เหมือนกันและปฏิบัติไม่เหมือนกัน
ตอบ : ที่จริงแล้ว ความจริงและความบริสุทธิ์สูงสุดมีเพียงหนึ่งเดียว แต่ที่ศาสนาทั้งหลายสอนต่างกัน
เพราะศาสดาของแต่ละศาสนาเข้าถึงความจริงได้ไม่เท่ากัน ถ้าสมมติว่าความจริงสูงสุด คือ ช้าง ศาสดาที่จับถูกหางก็
บอกว่า “หางนี่แหละคือ ช้าง ” ศาสดาที่จับถูกงวงก็บอกว่า“งวงนี่แหละคือ ช้าง ” ศาสดาที่จับถูกหูก็บอกว่า
“หูนี่แหละคือ ช้าง ” ศาสดาที่คลำทั่วทั้งตัวก็บอกว่า “ทั้งตัวนี่ แหละคือ ช้าง ”[10]
คำสอนของศาสดาทั้งหมด กล่าวถูกต้องหรือไม่
ถาม : คำสอนของศาสดาทั้งหมด กล่าวถูกต้องหรือไม่ ?
ตอบ : ศาสดาทุกท่านกล่าวถูกหมด ไม่มีใครกล่าวผิดแม้แต่ท่านเดียว เพราะหูก็คือช้าง งวงก็คือช้าง หางก็คือช้าง
เพียงแต่ศาสดาบางท่านรู้บางส่วน แต่หลงเข้าใจผิดว่าสิ่งที่ตนรู้คือทั้งหมดของตัวช้าง
ไฟล์แนบ | ขนาด |
---|---|
bhooothdha.pdf | 876.17 KB |