ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
เรือนลุงคิว - เรือนไทยโบราณ สถาปัตยกรรมล้านนา
พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณ - เรือนลุงคิว
เป็นอาคารรูปทรงแบบโคโลเนียล (Colonial) หรือทรงอาณานิคม เดิมเคยเป็นบ้านของ นายอาเธอร์ ไลออนแนล คิวริเปอล์(Arther Lionel Queripel) สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2465 มีหม่องตันเป็นสถาปนิก และผู้รับเหมาก่อสร้างในปี พ.ศ. 2506 บ้านหลังนี้ถูกเวนคืนให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อมาได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่ทำการของสถาบันวิจัยสังคม และเมื่อสถาบันวิจัยสังคมย้ายไปยังอาคารสำนักงานแห่งใหม่ อาคารหลังนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นที่ทำการ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 เป็นต้นมา
เกี่ยวกับนายเคอริเปอล์ หรือบ้างเรียกคิวริเปอล์ หรือนายคิวเจ้าของเดิมของบ้านหลังนี้ เป็นชาวอังกฤษมีภรรยาคนไทยชื่อ นางดอกจันทร์ เป็นชาวลำปาง เชื้อสายไทใหญ่ นายคิวริเปอล์เข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นพนักงานของบริษัททำไม้ บอมเบย์ เบอร์ม่า จำกัด พ.ศ.2443-2457 ทำงานที่เชียงใหม่และแพร่ บางครั้งก็เข้าไปทำงานในประเทศพม่า พ.ศ. 2453-2462 ทำงานที่กรุงเทพฯ ในฐานะผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว
นายคิวริเปอล์ถึงแก่กรรม ที่โรงพยาบาลจุฬา กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2489 (ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารอังกฤษได้ปลดอาวุธที่สวนลุมพินี และโรงพยาบาลจฬาเป็นที่พักรักษาตัวของทหารอังกฤษ)
นายคิวริเปอล์ผู้นี้สามารถพูดภาษาคำเมืองได้คล่อง เป็นคนรักศิลปะและกีฬาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาโปโล ส่วนด้านศิลปะนั้นนายคิวริเปอล์เป็นผู้ที่ชอบการแกะสลัก และทอผ้ามาก เป็นฝรั่งคนแรกที่ว่าจ้างให้ช่างพื้นบ้านแกะสลักรูปช้างประดับภายในบ้าน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นายคิวริเปอล์ได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น กีรติปาล โดยขอนามสกุลจาก พระองค์เจ้าอาทิตย์ ทิพยอาภา
บริเวณที่ตั้งบ้านของนายคิวริเปอล์นี้ แต่เดิมเรียกกันว่า "หลิ่งห้า" บริเวณบ้านมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ล้อมด้วยรั้วลวดหนาม และปลูกไม้ไผ่รอบบ้าน มีสัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่น วัว ควาย แพะ และมีการปลูกไม้ดอกไม้ผลนานาชนิด โดยเฉพาะสตรอเบอรี่ นายคิวริเปอล์ คือคนแรกที่นำมาปลูกในเมืองไทย ผลไม้จากสวนของนายคิวริเปอล์ได้ส่งไปถวาย รัชกาลที่ 7 และมอบให้ หลวงประดิษฐ์ มนูธรรม เป็นประจำทุกปี ส่วนสวนดอกไม้นั้นสวยงามเป็นที่ร่ำลือ เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสเชียงใหม่ พระองค์ทรงเสด็จมาชมสวนภายในบริเวณบ้านของนายคิวริเปอล์แห่งนี้ด้วย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้มายึดตึกแห่งนี้เป็นที่ทำการ และได้ฝังระเบิดไว้รอบๆ บ้าน เมื่อสงครามสงบ ทางราชการจึงได้กู้ระเบิดออก จากนั้นหลวงปู่แหวนสุจิณโณ และพระธุดงค์ได้เข้ามาปักกลดอยู่ หลังจากนั้นลูกๆ ของนายคิวริเปอล์จึงเข้ามาซ่อมแซม และเข้ามาอาศัย จนกระทั่งมีการเวนคืนให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อนุมัติเป็นที่ทำการสถาบันวิจัยสังคม และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ได้อนุรักษ์เรือนโบราณ และมีกลุ่มเรือนโบราณที่เป็นศูนย์รวม แหล่งศึกษาค้นคว้าด้านศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของล้านนา รวมทั้งการจัดการเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านศิลปวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งในปัจจุบันมีเรือนโบราณอยู่ 8 หลังดังนี้
ชื่อเรือน | พ.ศ. ที่สร้าง | อายุ | ย้ายมาปลูก พ.ศ. |
1. เรือนไทลื้อ (หม่อนตุด) | 2460 | 91 | 2536 |
2. เรือนกาแล (อุ๊ยผัด) | 2460 | 91 | 2537 |
3. เรือนพื้นบ้านล้านนา (อุ๊ยแก้ว) | สงครามโลกครั้งที่ 2 | - | 2540 |
4. เรือนกาแล (พญาวงศ์) | 2440 | 111 | 2541 |
5. ยุ้งข้าว ของเรือนกาแล (พญาวงศ์) |
2440 | 111 | 2542 |
6. เรือนชาวเวียงเชียงใหม่ (พญาปงลังกา) |
2439 | 112 | 2547 |
7. เรือนปั้นหยา (อนุสารสุนทร) |
2467 |
84 |
2548 |
8. เรือนทรงโคโลเนียล (ลุงคิว) |
2465 |
86 |
- |